จากคดีดัง 'ลัลลาเบล' ที่ค้นพบว่านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ อาจเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่สามารถบอกเวลาการตายของผู้เสียชีวิตได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว บนโลกใบนี้ยังมีอีกหลากหลายกรณีตัวอย่างที่เกิดเหตุร้ายขึ้น แล้วได้เจ้านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้จริง ๆ ซึ่Jelly ก็ได้ทำการรวบรวมมาฝากเพื่อน ๆ แล้ว ถึง 5 ตัวอย่างด้วยกัน เพราะนี่คือเหล่าตัวอย่างสำคัญที่บอกให้เรารู้ว่า "เทคโนโลยีกำลังมีบทบาทกับชีวิตมนุษย์มากขึ้นในทุก ๆ วัน และเราจำเป็นต้องรู้จักมันให้มากที่สุด"

 

ตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากเหตุฉุกเฉินด้วย 'นาฬิกาสมาร์ทวอทช์' - "จักรยานพลิกคว่ำอย่างรุนแรง"


  • เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Gabe Burdett ได้แชร์ประสบการณ์เฉียดตายที่เกิดขึ้นกับพ่อของเขา ซึ่งสุดท้ายสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ที่พ่อของเขาใส่อยู่แทบจะตลอดเวลา โดยเรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งเกบได้นัดกับพ่อของเขาเพื่อไปขี่จักรยานเสือภูเขาที่สวนสาธารณะริเวอร์ไซด์สเตตปาร์ก (Riverside State Park) ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ  แต่จู่ ๆ เกบก็ได้รับข้อความเตือนจาก Apple Watch นาฬิกาของพ่อ ว่ามันสามารถตรวจจับได้ถึง "การพลัดตกอย่างรุนแรง" จากผู้ที่กำลังสวมใส่ พร้อมทั้งส่งแผนที่จุดเกิดเหตุมาให้ และในระหว่างที่เกบกำลังรีบออกไปตามหาพ่อนั้น เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของพ่ออีกครั้งว่า พ่อของเขาถึงโรงพยาบาลแล้ว เพราะเจ้านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของพ่อได้ทำการโทรออกฉุกเฉิน แจ้งไปยังตำรวจและรถพยาบาล ให้มารับพ่อภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง! และเมื่อเขาตามไปถึงที่โรงพยาบาล เกบก็ได้รู้ว่าพ่อของเขานั้นประสบอุบัติเหตุรถจักรยานพลิกคว่ำอย่างแรง เกิดศีรษะกระแทก ซึ่งตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และมีเพียงอาการเจ็บปวดจากรอยแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกายเท่านั้น ทั้งหมดนี้เกิดจากการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์นั่นเอง

 

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์

cr. www.facebook.com/theburdetts/

 

ตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากเหตุฉุกเฉินด้วย 'นาฬิกาสมาร์ทวอทช์' - "รอดตายจากอุบัติเหตุรถคว่ำ"


  • เมื่อช่วงสองปีที่ผ่านมา Casey Bennett เด็กหนุ่มวัย 22 ปี ได้เดินทางจากมหาวิทยาลัยเพื่อกลับบ้าน ซึ่งในขณะที่เขากำลังเดินทางอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีรถมาชนเข้ากับรถของเขาอย่างจัง จนรถเสียหลักและพลิกตะแคงข้าง ทำให้ตัวของเขาติดและห้อยอยู่ในรถทันที ซึ่งขณะนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ได้หลุดจากมือเขาไปด้วยเช่นกัน ทำให้นาทีนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เขาได้สวมนาฬิกาสมาร์ทวอทช์อยู่ จึงได้ใช้นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ในการโทรออกฉุกเฉินหรือ SOS Emergency ทันที และในเวลาเพียงแค่ 6 นาที เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและรอดตายมาได้ สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจเขียนจดหมายถึง Tim Cook ผู้บริหารของ Apple เพื่อเป็นการขอบคุณที่สร้างฟีเจอร์ SOS นี้ขึ้นมา เพราะมันได้ช่วยเขาไว้จากนาทีแห่งความเป็นความตายนั่นเอง

 

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์

cr. www.idropnews.com/

 

ตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากเหตุฉุกเฉินด้วย 'นาฬิกาสมาร์ทวอทช์' - "แจ้งเตือนในภาวะกล้ามเนื้อสลาย"


  • คงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่อัตราการเต้นของหัวใจจะสูงขึ้น เมื่อเราออกกำลังกาย และ Paul Houle Jr ก็เป็นนักกีฬาอีกหนึ่งคนที่ได้รับการแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจสูงผิดปกติ ซึ่งในขณะที่เขากำลังซ้อมฟุตบอลอยู่นั้น นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของเขาก็ได้แจ้งเตือนถึงอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 145 BPM และไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ซึ่งนั่นถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติอย่างมาก และถึงแม้ว่าเขาจะหยุดออกกำลังกายไปแล้ว แต่อัตราการเต้นของหัวใจก็ยังสูงอยู่อย่างนั้น ทำให้นาฬิกา Apple Watch ที่เขากำลังใส่อยู่ได้ทำการแจ้งเตือนให้เขารีบไปพบแพทย์ในทันที จนเมื่อถึงโรงพยาบาลพอลก็พบว่า เขากำลังตกอยู่ใน 'ภาวะกล้ามเนื้อสลาย' เป็นสาเหตุที่อาจส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตาย ซึ่งสุดท้ายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ถ้าเขามาถึงโรงพยาบาลช้ากว่านี้ และพอลได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเอาไว้ว่า เขารู้สึกขอบคุณ Apple Watch มาก ที่ทำให้เขารู้ตัวเร็วและช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ในที่สุด

 

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์

cr. www.idropnews.com/

 

ตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากเหตุฉุกเฉินด้วย 'นาฬิกาสมาร์ทวอทช์' - "อัตราการเต้นของหัวใจที่ 190 BPM"


  • เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา กับวัยรุ่นหญิงชาวฟลอริด้า Deanna Recktenwald เล่าว่าวันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังเข้าโบสถ์ เธอได้รับการแจ้งเตือนจากนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ว่า อัตราการเต้นของหัวใจของเธอนั้นอยู่ที่ 190 BPM ซึ่งถือว่าเป็นสภาวะอันตรายเข้าขั้นวิกฤตและต้องรีบพบแพทย์ในทันที ซึ่งเมื่อถึงโรงพยาบาล เธอได้ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน และผลการวินิจฉัยในภายหลังระบุเอาไว้ว่า เธอเป็น 'โรคไตเรื้อรัง' และต้องได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไตอย่างเร่งด่วน นั่นจึงทำให้เธอรอดชีวิตจากอาการป่วยฉุกเฉินมาได้ และแม่ของเธอก็ได้เขียนจดหมายถึง Apple ว่านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของพวกเขาได้ช่วยชีวิตลูกสาวเธอไว้ได้จริง ๆ

 

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์

cr. www.idropnews.com/

 

ตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากเหตุฉุกเฉินด้วย 'นาฬิกาสมาร์ทวอทช์' - "เกือบพิการจากการเมินเฉินต่อสัญญาณเตือน"


  • เรื่องราวของหนุ่มไทยผู้ใช้งานในกลุ่ม Apple Watch User Thailand ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับการแจ้งเตือน Heart Rate หรือที่เราเรียกว่าอัตราการเต้นของหัวใจได้ล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ เขาเล่าว่ามีการแจ้งเตือนจากนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของเขาทั้งหมด 2 ครั้ง ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติ (แต่ไม่บ่อย) จนมาถึงช่วงที่เขาสังเกตได้ว่า นาฬิกาสมาร์ทวอทช์เริ่มเตือนถี่ขึ้นแทบทุกชั่วโมงในวันดังกล่าว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเขาเองก็ยังไม่เห็นความผิดปกติอะไรของร่างกาย นอกเหนือจากอาการเหนื่อยล้าแบบคนธรรมดาทั่วไป จนสุดท้ายในคืนนั้น เขาได้ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน เพราะ 'เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ' ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดอุดตันส่งผลให้สมองขาดเลือด จนถึงขั้นพิการและอาจเสียชีวิตได้โดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้เขายังได้กำชับไว้อีกว่า อย่าเมินเฉยต่อการแจ้งเตือนของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์อย่างเด็ดขาด!

 

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์

cr. www.iphonemod.net

ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ที่จะทำให้เราได้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่อยู่รอบ ๆ ตัว ที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์และมีความจำเป็นอย่างมากต่อชีวิตคนเราในยุคปัจจุบัน เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราตอนไหน และความช่วยเหลือจะมาถึงเมื่อไหร่ ทางที่ดีที่สุดก็คืออย่ารอให้ถึงวันนั้น จงเรียนรู้จากทุกเคสที่เกิดขึ้น แล้วจงทำทุกอย่างให้ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่เราจะได้อยู่กับคนที่เรารักไปได้นาน ๆ รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมแชร์เรื่องราวดี ๆ แบบนี้ไปให้คนที่คุณรักกันด้วยนะคะ💖