ถ้าใครได้ติดตามรายการ The Next Iron Chef ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเขาคนนี้คือเชฟฝีมือเยี่ยม แถมยังเปี่ยมไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์อย่าง 'เชฟอ๊อฟ' แชมป์ผู้ชนะคนแรกของรายการ The Next Iron Chef นั่นเอง และการได้มาซึ่งตำแหน่งแชมป์นั้นก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่าเขาคนนี้ต้องไม่ธรรมดา! ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จักเชฟอ๊อฟให้มากขึ้นกว่านี้กันเลยค่ะ 

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.facebook.com/ironchefthailand/

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.youtube.com

 

เปิดประวัติ 'เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ' แชมป์คนแรกของรายการอาหารสุดปัง The Next Iron Chef!  


  • 'เชฟอ๊อฟ' หรือ 'เชฟอ๊อฟ - ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์' คือสุดยอดเชฟที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของวงการอาหารยุคนี้ ผู้มีความเชี่ยวชาญในการหยิบเอาเทคนิคและมนต์เสน่ห์ของอาหารแต่ละชาติ มารังสรรค์เป็นเมนูที่แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.facebook.com/ironchefthailand/

 

  • ซึ่งเมนูของเชฟอ๊อฟที่ใช้ในเวทีแข่งขันจนสามารถเอาชนะใจกรรมการมาได้นั้น มีทั้งหมด 5 คอร์สด้วยกัน ดังนี้
  1. อาหารเรียกน้ำย่อย - ล็อบสเตอร์เซบิเชเปรู
  2. ซุป - ครีมล็อบสเตอร์ซานฟรานซิสโก
  3. อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต - ราวิโยโลเรนโบว์ล็อบสเตอร์
  4. ของหวาน - สะตอกาแล็ต

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.youtube.com

 

  • ซึ่ง 'สะตอกาแล็ต' นั้นเรียกได้ว่าเป็นเมนูยืนหนึ่งที่ทั้งสร้างสรรค์จากการนำ 'สะตอ' ผักกลิ่นแรงของดีภาคใต้บ้านเรา มาทำเป็นขนมหวานสุด High Class แถมยังแปลกใหม่ด้วยรสชาติที่ดีอย่างไร้ที่ติไปอีก! 

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.youtube.com

 

  • จุดเริ่มต้นในเส้นทางเส้นนี้ของเชฟอ๊อฟก็คือ 'ความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าของร้านอาหาร' ที่ไม่ใช่เป็นเพียงนักลงทุน แต่ต้องเป็นเจ้าของร้านที่รู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ การเรียนรู้และฝึกฝนในการเป็นเชฟในร้านอาหารของตัวเองจึงเป็นไอเดียเริ่มต้นที่ดีที่สุด

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.nairobroo.com

 

  • จนกระทั่งปี 2004 เชฟอ๊อฟมีร้านอาหารร้านแรกเป็นของตัวเองได้ในที่สุด! และดูท่าทางจะราบรื่นดี ถึงขนาดที่ผู้คนในซานดิเอโกต่างขนานนามว่า "นี่คือร้านอาหารไทยที่พัฒนาไปไกลกว่าคนอื่นถึง 30 ปี" เลยทีเดียว!
  • สำหรับเชฟอ๊อฟ การสร้างจุดอิ่มตัวให้ตัวเอง คือเคล็ดลับที่ดีในการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และเป็นการเพิ่มสกิลการทำงานให้กับตัวเองได้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกันกับที่เชฟอ๊อฟเคยเปิดร้านอาหารมาแล้วมากกว่า 6 ร้าน ซึ่งร้าน 'Frazz' คือหนึ่งในร้านอาหารของเชฟอ๊อฟ ที่มีสาขาอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ และถือได้ว่าเป็นร้านที่ได้รับความนิยมสูงมากเลยทีเดียว แต่พอถึงจุดหนึ่งของความอิ่มตัว เชฟอ๊อฟผู้ต้องการความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ อีกครั้ง จึงเลือกที่จะเปิดร้านเบเกอรี่เพิ่มในชื่อ 'มาลาคาเฟ่' ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะต้องลงทุนลงแรงเพิ่ม ในการเรียนรู้และฝึกฝนศาสตร์ของเบเกอรี่นั่นเอง 

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.brighttv.co.th

 

  • ปัจจุบันเชฟอ๊อฟตัดสินใจเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อมาดูแลครอบครัว และเป็น Executive Chef อยู่ที่ร้านอาหาร 'วังหิ่งห้อย' ร้านอาหาร Concept เก๋ที่จะเปิดให้บริการเพียง 18 เดือน ตามวงจรชีวิตของหิ่งห้อย ซึ่งทุก ๆ 4 เดือนจะมีการเปลี่ยน Concept ตามธีม 'ธาตุแห่งชีวิต' ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นการเล่าเรื่องราวผ่านอาหารนั่นเอง
  • เพราะเชฟอ๊อฟเป็นคนที่เรียกได้ว่า พร้อมคว้าทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ฉะนั้นการมาแข่งขันในรายการ The Next Iron Chef คืออีกหนึ่งโอกาสที่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ และนั่นก็เป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้วันนี้ผู้คนมากมายได้รู้จักเขามากขึ้นในฐานะ แชมป์ The Next Iron Chef !
  • สุดท้ายนี้ความตั้งใจในอนาคตของเชฟอ๊อฟก็คือ การได้มีโอกาสสอนทำอาหารให้กับคนตาบอด หรือผู้พิการและด้อยโอกาสอีกมากมายที่มีใจรักในการทำอาหาร เพราะเขาเชื่อว่าคนเหล่านั้นก็มีความสามารถและ Passion ไม่ต่างกับคนทั่วไป ขอเพียงแค่ให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสได้ลงมือทำ และพวกเขาจะทำมันออกได้ดีอย่างแน่นอน 

 

"เพราะเชฟเป็นอาชีพที่ทุกคนทำได้"

 

เชฟอ๊อฟ ณัฐวุฒิ

cr. www.facebook.com/ironchefthailand/

 

ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลดี ๆ  จาก : youtube.com / www.brighttv.co.th

 


เชื่อแล้วว่าเส้นทางของการเป็นเชฟหรือแม้กระทั่งแชมป์ The Next Iron Chef ของเชฟอ๊อฟ นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริง ๆ นอกจากจะต้องมีฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ที่ดีแล้ว การพาตัวเองวิ่งเข้าหาโอกาสก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และสุดท้ายเราต้องไม่ลืมว่าเมื่อเราได้รับโอกาสนั้นแล้ว ก็ควรส่งต่อโอกาสดี ๆ ให้คนอื่นต่อไปด้วย


ถ้าใครยังไม่จุใจ ก็ลองมาอ่านบทความดี ๆ ที่จะมาช่วยจุดประกายไอเดียดี ๆ จากผู้คนหลากหลายอาชีพ ได้ที่นี่เลยจ้า...